“กิรเดช” ตั้งเป้าแชมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่หัวหิน

หัวหิน - กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตมือหนึ่งเอเชียนทัวร์ 2013 ยอมรับไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด แต่มองไกลถึงแชมป์ในการแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์รายการ “อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 68 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคมนี้ ที่สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟคลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
           
การแข่งขันอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ จัดขึ้นเป็นครั้งที่สองหลังจากซีรีส์นี้เคยเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่สนามแบล็คเทาน์เท่น แห่งนี้เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยเงินรางวัลรวมขยับเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปีนี้ โดยจะแข่งขันระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคมนี้ เป็นรายการที่ 5 ของเอเชี่ยนทัวร์ ฤดูกาล 2013 และเป็นรายการที่ 3 ของอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ต่อจาก โอมาน และ การ์ตาร์
           
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ได้จัดให้มีงานแถลงข่าวโดยผู้เล่นชั้นนำของทัวร์ ได้แก่ กิรเดช อภิบาลรัตน์, พรหม มีสวัสดิ์, สาริศ สุวรรณรัตน์, ทีเค-รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ และ แอนดี้ โอกลีทรี เจ้าของสองแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ จากสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนเริ่มการแข่งขันรอบแรกในวันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคมนี้
             
“โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ แชมป์เอเชียนทัวร์ 3 รายการและอดีตมือหนึ่งของเอเชียนทัวร์เมื่อปี 2013 ซึ่งกลับมาลงเล่นเอเชียนทัวร์ประเทศไทยอีกครั้งยอมรับว่าตั้งเป้าถึงแชมป์ เจ้าตัวกล่าวว่า “จริงๆ แล้วผมต้องการคว้าแชมป์รายการนี้ ผมไม่เคยตั้งเป้าสูงแต่แต่ล่ะสัปดาห์แต่ไม่ใช่ในสัปดาห์นี้เนื่องจากผมห่างจากแชมป์มานานหลายปีและไม่เคยคว้าแชมป์เอเชี่ยนทัวร์ในบ้านเราได้เลย”
 
หนึ่งในเหตุผลที่กิรเดชตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้เนื่องจากที่ผ่านมาเขามักจะทำผลงานได้ดีในการเล่นที่สนามแบล็คเมาน์เท่น ซึ่งรวมถึงการจบอันดับสี่ร่วมในรายการทรู ไทยแลนด์ คลาสสิก 2015 ซึ่งเป็นรายการโคแซงชั่นระหว่างเอเชียนทัวร์กับยูโรเปียนทัวร์ “ผมมีความทรงจำดีๆกับสนามนี้ ผมเคยลุ้นแชมป์มาแล้ว รวมทั้งการคว้าแชมป์แมทช์โปรธงชัย ใจดี (เอเชียนดีเวลล็อปเมนต์ทัวร์) ผมก็หวังจะได้ชูถ้วยแชมป์ในวันอาทิตย์นี้ แต่ก็ต้องบอกว่าสนามนี้โอกาสทำแต้มได้ดีมีเยอะ แต่วันไหนที่ตีไม่ได้ ลูกไปตกในตำแหน่งที่ยากจะแก้ไขก็จะกลายเป็นสนามที่ยากมาก ดังนั้นก็ต้องตีไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีให้ได้แล้วเราก็จะทำได้เอง”
 
ทางด้าน พรหม มีสวัสดิ์ นักกอล์ฟขวัญใจเจ้าถิ่นชาวหัวหินเจ้าของแชมป์เอเชียนทัวร์ 3 รายการเผยว่า “การเป็นนักกอล์ฟเจ้าถิ่นผมมองว่าเป็นแรงสนับสนุนมากกว่าความกดดัน ผมเล่นในเอเชียนทัวร์มาค่อนข้างนานซึ่งข้ามเรื่องความกดดันไปแล้ว เชื่อว่าทุกคนจะเข้ามาให้กำลังใจนักกอล์ฟไทยทุกคน ผมมองว่ามันเป็นแรงสนับสนุนให้กำลังใจเราได้ดี ถึงแม้มันจะออกมาดีหรือไม่ดีมันเป็นอีกเรื่อง แต่อย่างน้อยเราได้รู้ว่าคนที่มาทุกคนซับพอร์ตนักกอล์ฟไทยแน่นอน เราก็พยายามลงไปเล่นกับสนามและแข่งกับตัวเองให้ทำผลงานออกมาดีที่สุด”
          นักกอล์ฟเจ้าของฉายา “โลมายักษ์” ซึ่งคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการล่าสุดเมื่อปี 2019 ที่บรูไน ยังกล่าวถึงเอเชียนทัวร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ด้วยว่า “จริงๆต้องบอกว่าการที่มีทัวร์นาเมนต์ในเมืองไทยนับเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักกอล์ฟไทยและวงการกอล์ฟไทย สำหรับผมก็โตที่นี่และคิดว่าทุกคนก็คงได้เล่นสนามที่นี่มาหลายครั้งแล้ว เชื่อว่านักกอล์ฟไทยและตัวผมเองจะพยายามทำผลงานกันเต็มที่เพื่อที่จะให้มีแฟนกอล์ฟไทยเข้ามาให้กำลังใจกันเยอะๆ”
           
ส่วน สาริศ สุวรรณรัตน์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการแรกในชีวิตในการแข่งขันที่อินโดนีเซีย เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กล่าวว่า “การชนะที่อินโดนีเซีย มาสเตอร์ เรียกว่าเป็นแมตช์ที่ปลดตัวเอง ตอนแรกก็มีความคิดกับตัวเองว่าเราจะสามารถชนะในระดับเอเชียนทัวร์ได้ไหม พอมันผ่านมาได้ก็ทำให้ตนเองโล่งขึ้นและกระหายมากขึ้น เหมือนเป็นการคอนเฟิร์มตัวเองว่าสิ่งที่เราทำงานหนักทั้งหมด เราไม่ได้เดินผิดทาง พยายามปรับปรุงในสิ่งที่มันไม่ดีให้มันดีขึ้น แล้วมองเป้าที่สูงขึ้น ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ แต่มันเส้นบางๆระหว่างความมั่นใจและกับเหลิง ก็ต้องดูตัวเองให้ดี สำหรับสัปดาห์นี้พยายามตีตามเกม แต่โฟกัสจริงๆมันอยู่ที่ร่างกาย เพราะว่า 3 สัปดาห์หลังสุดปรากฏว่าเจ็บหมดเลย ก็เลยพยายามทำให้ร่างกายฟิตเต็มร้อยมากกว่า แล้วก็ออกไปสู้กับสนาม”
           
ขณะที่ “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ นักกอล์ฟสมัครเล่นเจ้าของสถิตินักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่ชนะรายการที่มีเวิลด์แรงกิง รายการ ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียนมิกซ์คัพ เมื่อปีที่แล้ว ด้วยวัย 15 ปี 37 วัน ตั้งเป้าทำผลงานให้ดีกว่าการแข่งขันเมื่อปีที่แล้วที่จบอันดับ 11 ร่วม กล่าวว่า “สำหรับรายการนี้เป็นเอเชียนทัวร์ที่ผมได้มีโอกาาเล่นซ้ำ เป้าหมายก็คือจะต้องทำให้ดีกว่าปีที่แล้ว ให้มันเห็นว่าเป็นการปรับปรุง แบล็คเมาน์เท่นเป็นสนามที่ดีแต่ไม่ใช่สนามที่ยากมาก ปีที่แล้วที่หนึ่งไม่ลบ 23 ก็ 24 ผมตีลบ 18 ก็ยังเข้าท็อปเท็นไม่ได้”
           
ปิดท้ายที่ แอนดี้ โอกลีทรี โปรหนุ่มชาวอเมริกัน แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองรายการ เผยว่า "ผมมาเล่นที่ประเทศไทยครั้งแรก สนามนี้เป็นสนามดีทั้งหมดเลย กรีนเร็วด้วย ผมได้มีโอกาสได้เล่นในเอเชียนทัวร์เพื่อหาประสบการณ์เพราะตั้งใจจะเล่นในพีจีเอ ทัวร์ หรือไม่ก็คอนเฟอร์รี ทัวร์  แต่บังเอิญได้แชมป์เอเชียน ทัวร์ จึงเล่นที่นี่ต่อ ซึ่งรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ก็เป็นรายการใหญ่อีกด้วย"
           
ทั้งนี้ โอกลีทรี นักกอล์ฟวัย 24 ปี คว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรียส์ ที่ประเทศอิยิปต์ เมื่อพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ต่อด้วยแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ที่กาตาร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยปีนี้เล่นในเอเชียน ทัวร์ 3 รายการจบใน 10 อันดับแรกทั้งสามรายการ
 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิและสถาบันในเครือสารสาสน์ ฉลองครบรอบ 60 ปี จัดงานประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 2 พร้อมกิจกรรมจิตอาสาทั่วประเทศ