เปิดตำนาน “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช” สภากาชาดไทย” ร่วมกับ “บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ร่วมสืบสานมรดกทางพุทธศาสน์ ไทย-ภูฏาน เพื่อสมทบทุนโครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ

หากกล่าวถึงพระพุทธศาสนาในนิกายมหายาน หนึ่งในตำนานความศักดิ์สิทธิ์ เล่าขานสืบทอดมายาวนานตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 13 คงไม่มีใครไม่รู้จัก “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช” หนึ่งในพระที่โด่งดังจนได้รับการยกย่อง ขนานนามว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สองตามความเชื่อในประเทศภูฏาน ทางพุทธคุณหากใครได้สักการะบูชาท่านจะช่วยปกปักษ์รักษาจากโรคภัยไข้เจ็บ ช่วยปราบภูตผีปีศาจ และช่วยขจัดเภทภัย ทำให้บ้านเมืองสงบสุข 

ล่าสุด นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ร่วมกับ นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด และอาจารย์วันชัย รวยอารี ที่ปรึกษาโครงการ จัดงานแถลงข่าวความคืบหน้า “โครงการสืบสานมรดกทางพุทธศาสน์ ไทย ภูฏาน เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา” จัดสร้าง “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ปางประทานพร” จำลองจากองค์จริงซึ่งประดิษฐานที่ วัด โกเอน เธอภูเนย์ ประเทศภูฏาน โดยได้รับพระราชทานมวลสารจาก 5 วัดเก่าแก่ จากราชวงศ์ประเทศภูฏาน เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทย และประเทศภูฏาน ด้านการเผยแพร่พระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม นำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนโครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย และร่วมบูรณจัดสร้างวิหาร ณ ประเทศภูฏาน พร้อมเตรียมจัดพิธี พุทธาภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ วันที่ 9 เดือน กันยายน นี้ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้นที่ ห้องประชุมอำนวยธรรม ชั้น 4 สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ที่ผ่านมา 

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้สภากาชาดไทย กล่าวว่า สภากาชาดไทย เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ดำเนินภารกิจด้านมนุษยธรรมมาแล้ว 130 ปี ปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ผู้ยากไร้ และผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ตามหลักการกาชาดที่มุ่งเน้นการส่งเสริม และช่วยเหลือประชาชนและผู้ด้อยโอกาสภายใต้พันธกิจทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1.การบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย 2.การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย 3.การบริการโลหิต 4.การส่งเสริมคุณภาพชีวิต

การจัดสร้าง “มหาสิทธาคุรุปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อสร้างความสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและประเทศภูฏาน รวมถึงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมอันสวยงามของประเทศภูฏาน และเพื่อนำเงินรายได้สนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดไทยในโครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ 

โดยสภากาชาดไทย ได้จัดตั้งโครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย เป็นเงินทุนที่เตรียมพร้อมไว้สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้ทันท่วงที ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยตามฤดูกาล ในกรณีที่ภาครัฐไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทั่วถึงและครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เด็ก ผู้ไร้ที่พึ่ง เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนผู้ยากไร้

อาจารย์วันชัย รวยอารี ที่ปรึกษาโครงการ เผยถึงเรื่องราวความเป็นมาของการจัดสร้าง “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช” ว่า “สำหรับประวัติความเป็นมาของท่าน มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช นั้นมีตัวตนอยู่จริง โดยท่านถือกำเนิดในแถบอินเดีย ปากีสถาน ท่านเป็นวัชรญาณผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาสายวัชรญาณ นิกายมหายาน อยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13-14 เป็นผู้ที่ได้รับความเคารพยกย่องอย่างมาก จากพระพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายาน ทั้งในทิเบต เนปาล ภูฏาน และประเทศใกล้เคียง ทางพระพุทธศาสนานิกายมหายาน แต่เดิมได้แบ่งแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนแรก เผยแพร่ด้วยปรัชญาพระสูตรตามพระไตรปิฎก กับอีกส่วนจะเน้นเรื่องของฌาน มีอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ ท่านมีฤทธิ์ในด้านการปราบภูตผีปีศาจ  ซึ่งท่านได้มีส่วนช่วยเหลือชาวภูฏานด้วยการปราบเหล่าปีศาจร้าย ที่ต่อต้านพระพุทธศาสนาให้ยอมศิโรราบ และยังช่วยปกป้องคุ้มครอง ทำให้บ้านเมืองสงบสุข และยังช่วยให้การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในประเทศภูฏานสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันได้มีการประดิษฐาน “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ปางประทานพร” ณ วัด “โกเอน เธอภูเนย์” พุทธศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ ของประเทศภูฏาน ที่มีความเก่าแก่หลายร้อยปี โดยมีความเชื่อว่าอานิสงส์จากการสวดภาวนาขอพรจากองค์มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช จะทำให้ได้พรทั้งทางโลก และทางธรรม บรรเทาเคราะห์กรรม และความทุกข์ทั้งของตนเองและคนที่รัก รวมถึงช่วยให้โรคร้าย และภูตผีปีศาจเบาบางลง อีกด้วย”

โดยในการจัดทำ “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ปางประทานพร”  ครั้งนี้เรายังได้รับพระราชทานมวลสารจาก 5 วัดเก่าแก่ ณ ประเทศภูฏาน โดยทางคณะผู้จัดจะมีการจัดงานพิธี พุทธาภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ วันที่ 9 เดือน กันยายน นี้ เวลา 9.09 น.  ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในการนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีพุทธาภิเษก พร้อมด้วย Her Majesty Queen Tshering Pem Wangchuk แห่งราชวงศ์ภูฏาน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) วันจันทร์ ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 14.00 น. 

ทั้งนี้ยังได้รับพระมหากรุณาจาก HRH Princess Ashi Chodren Wanfchuck (เจ้าหญิงเคซังโซเดนวังซุก) แห่งภูฏาน มีพระประสงค์ที่จะให้ราชอาณาจักรภูฏานและราชอาณาจักรไทย ดำเนินโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสสำคัญของชาวไทย แล้วในวโรกาสที่ Her Majesty Queen Mother Tshering Pem Wangchuk (สมเด็จพระราชินี Tshering Pem Wangchuk) มีพระประสงค์ให้มีการระดมทุนโครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 และเพื่อการมีวัฒนธรรมและจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่เพื่อเสริมความสัมพันธ์พระหว่างราชอาณาจักรภูฏานและราชอาณาจักรไทย”

นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เผยต่อว่า “สำหรับความคืบหน้าของโครงการฯ ตอนนี้เราได้ เปิดให้มีการสั่งจอง “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ปางประทานพร” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช” ที่ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อความสิริมงคลครั้งนี้ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ ขนาดตั้งบูชาหน้าตัก 4 นิ้ว ความสูงรวมฐานหินอ่อน 19 นิ้ว บูชาองค์ละ 299,999 บาท จัดสร้างจำนวน 108 องค์ และเหรียญมหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช เนื้อเงินชุบนาก ประกอบด้วยองค์มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ตราราชสำนัก และวิหารด้านหลังผลิตจากทองคำบริสุทธิ์ 96.5 หนัก 1 บาท บูชาองค์ละ 199,999 บาท จัดสร้างจำนวน 108 องค์ โดยทุกท่านที่ได้มีการจองบูชา จะสามารถเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) รวมทั้งทางสภากาชาดไทยยังได้ออกใบเสร็จเพื่อลดหย่อนภาษีได้กว่ากึ่งหนึ่งอีกด้วย โดยขณะนี้ได้ถูกสั่งจองไปเกินกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

 จึงอยากขอเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจ  สามารถจองบูชาได้แล้วที่บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด โทร. 0-2117-9634 และ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย โทร 0-2256-4623, 0-2256-4440-3 หรือ สามารถโอนชำระเรื่องการจองบูชา ได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขาสภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-304-7910 ชื่อบัญชี โครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ร่วมสืบสารมรดกทางพุทธศาสน์ไทย ภูฏาน โดย บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนโครงการเงินฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย และเพื่อบูรณะจัดสร้างวิหาร ณ ประเทศภูฏาน”





ความคิดเห็น